LINE : @678UFAV1
ยินดีต้อนรับเข้าสู่เว็บไซต์ UFA678 เว็บพนันบอลออนไลน์ UFABET อันดับหนึ่ง ที่มีระบบฝาก-ถอน AUTO ภายใน 1 นาที ให้บริการ แทงบอล UFABET แทงบอลออนไลน์ คาสิโนออนไลน์ มวย หวย ไม่ผ่านเอเย่น ยูฟ่าเบท เราให้บริการด้านการเดิมพันแบบครบวงจรตลอด 24ชม.
ติดต่อ 080-55-88-678 @678UFAV1
หรือ สมัคระบบอัติโนมัติหน้าเว็บ
เติมเครดิต โอนขั้นต่ำ 50 บาท
โอนผ่านระบบอัติโนมัติหน้าเว็บ
เข้าเล่นได้ทันที ไม่ต้องรอทีมงานปรับยอด
หากยอดเงินไม่เข้าให้แจ้งทีมงานทันที

ไม่มีโด้ก็เฮได้ แมนยูประเดิมหรู ลิเวอร์พูลโดนยับ แดงเดือดเมืองไทย

                แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ประเดิมชัยให้นายใหญ่ป้ายแดง เอริก เทน ฮาก หลังถล่มอริตลอดกาลอย่าง ลิเวอร์พูล แบบยับเยิน 4-0 จากการเวียนยิงของ ซานโช่, เฟร็ด, มาร์กซิยาล และ เปนิสตรี้ ในศึกฟุตบอล เดอะ แมตช์ แบงค็อก เซนจูรี่ คัพ 2022 เมื่อคืนวันอังคารที่ 12 กรกฎาคมที่ผ่านมา

เกมฟุตบอล เดอะ แมตช์ แบงค็อก เซนจูรี่ คัพ 2022 ที่จัดขึ้นที่สนามราชมัลคลากีฬาสถาน กรุงเทพมหานคร ระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พบกับ ลิเวอร์พูล มาเปิดศึกแดงเดือดเมืองไทยเป็นครั้งแรกในประวัติศาตร์

เอริก เทน ฮาก กุนซือ “ปีศาจแดง” จัดทีมแข้งผีนัดแรกด้วยชุดใหญ่ นำโดย บรูโน่ แฟร์นันด์ส ที่สวมปลอกแขนกัปตันแทน แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ที่ไม่ฟิตพร้อมสำหรับเกมนี้ ส่วน ไทเรลล์ มาลาเซีย แข้งใหม่ป้ายแดงนั้นให้นั่งสำรองรอโอกาสไปก่อน

ทางด้าน เจอร์เก้น คล็อปป์ เลือกที่จะจัดทีมชุดผสมโดยให้ ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ ดาวรุ่งป้ายแดงประเดิมแข้งตั้งแต่เกมนี้ ส่วนแนวรุกวางใจ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ประจำการหน้าเป้า

เปิดเกมมาได้แค่ 3 นาที ลิเวอร์พูล ไม่รอช้า รีบทักด้วยจังหวะ ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ พาบอลขึ้นมาปาดให้ บาบาย่า ดึงหนี ลุค ชอว์ ก่อนจะเปิดเข้ากลาง แต่ก็ยังอยู่ในระยะเซฟของ ดาบิด เด เคอา

สิบนาทีต่อมา “ปีศาจแดง” ออกนำก่อน 1-0 เมื่อ อิซัค มาบาย่า ขึ้นโขกไม่เคลียร์ไปเข้าทาง เจดอน ซานโช่ ที่ปรี่มาปั่นขวาเสียบเสาไกลไป

นาที 18 “หงส์แดง” หวิดตีเสมอสำเร็จเมื่อ ไทเลอร์ มอร์ตัน กดซ้ายในระยะอันตรายไปชนเสา แม้ว่า หลุยส์ ดิอาซ จะเข้ามาทัน แต่ก็ปั่นหลุดเสาไกลแบบเฉียดฉิว

นาที 24 ลิเวอร์พูล ได้โอกาสเตะมุม แต่จังหวะนี้ โจ โกเมซ โขกหลุดเสาแรกออกไปก่อน

เกมเดินไปครบครึ่งชั่วโมง ลูกทีมของ เทน ฮาก ก็ไม่ทันให้ผิดหวังในช่วงชุลมุนหน้าประตู “หงส์แดง” แล้วบอลไปเข้าทาง เฟร็ด ที่จัดการชิพข้ามหัว อลิสซิง เบ็คเกอร์ เข้าประตูไปอย่างง่ายดาย

หลังจากโดนซัดไปสองเม็ดติด ทำให้กุนซือชาวเยอรมันต้องรีบเปลี่ยนแผง ส่งแข้งอีกชุดมาแก้สถานการณ์พร้อมกันสิบคน ไม่ว่าจะเป็น โจแอล มาติป, คอสตาส ซิมิคาส, เมลกามู ฟอยดอฟ, รีสส์ วิลเลี่ยมส์, อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน, เจมส์ มิลเนอร์, เลย์ตัน คลาร์กสัน, บ๊อบบี้ คลาร์ก และ สตีเฟ่น บาจเซติค

แต่นั่นดูเหมือนว่าจะไม่สามารถกู้สถานการณ์มาได้ ทันทีที่ส่งแข้งชุดใหม่ลงไปได้ไม่กี่วินาที อองโตนี่ มาร์กซิยาล ก็ได้จังหวะตัดบอลเข้ากลางสนามก่อนจะเข้าไปลั่นไกในเขตโทษ แหกเซฟของ อลีสซง เข้าประตูไป แมนฯ ยูไนเต็ด หนีห่าง 3-0

นาที 37 ดิโอโก้ ดาโลต์ ได้โอกาสเข้าไปซัดในเขตโทษบ้าง แต่โดนเสาเซฟออกมาอย่างน่าเสียดาย

จบครึ่งแรกด้วยการนำของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3-0

ช่วงครึ่งหลังดูท่าทางฝั่ง “ปีศาจแดง” จะสบายเกือก เทน ฮาก เลือกที่จะส่งแข้งชุดใหม่ลงมายกแผงบ้าง จัดเต็มทั้ง ไทเรลล์ มาลาเซีย, แอนโธนีย์ อีลังก้า, อเล็กซ์ เตลลิส, เอริค ไบยี่, แอรอน วาน-บิสซาก้า, ดอนนี่ ฟาน เดอเบ็ค, ชาลี ซาเวจ, ซีดาน อิคบัล, ฟาคุนโด้ เปยิสตรี้ และ อาหมัด ดิยัลโล่ ส่วน ลิเวอร์พูล ให้ อาเดรียน มายืนเฝ้าเสาแทนนายด่านเลือดแซมบ้ากันบ้าง

ในที่สุดนาที 61 คล็อปป์ ก็ตัดสินใจเอาใจแฟนบอลด้วยการส่งบรรดาแข้งหลักอย่าง โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดาร์วิน นูนเญซ, ฟาบินโญ่, เฟอร์จิล ฟานไดค์, อิบราฮิม โกนาเต้, ติอาโก้ อัลกันตาร่า, นาบี เกอิต้า, เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน และ โธมัส ฮิลล์ ลงสนาม ทำเอาเหล่า “เดอะ ค็อป” เมืองไทยได้เฮลั่นราชมังคลา

หลังจากส่งแข้งชุดดังกล่าวลงสนามไปได้ไม่นาน ก็ทำเอาฝั่ง แมนฯ ยูไนเต็ด ตึงมือไม่น้อย จนกระทั่งนาที 70 แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ได้จังหวะเปิดบอลให้ ดาร์วิน นูนเญซ หลุดเข้าไปซัดเต็มข้อ ยังดีที่ ทอม ฮีตัน ปัดทิ้งได้ทัน

ทว่านาที 76 “ปีศาจแดง” ก็บวกสกอร์เข้าไปอีกจากจังหวะเล่นชิ่งของ ฟาคุนโด้ เปยิสตรี้ กับ อาหมัด ดิยัลโล่ ก่อนจะส่งคืนให้ปีกทีมชาติอุรุกวัยซัดจ่อ ๆ ไม่มีเหลือ ทิ้งห่างสุดกู่ 4-0

นาที 80 เป็นฝั่ง “ปีศาจแดง” ที่บุกคืนอีกครั้ง คราวนี้ แอนโธนี่ อีลังก้า ตั้งป้อมซัดหน้าเขตโทษ แต่แรงจนบอลเหินคานแบบไม่ต้องลุ้น

นาที 86 แมนยู หวิดโดนตีไข่แตก หลังสกัดบอลไปเข้าทาง นาบี เกอิต้า ก่อนจะกดเหินคานออกไป

นาทีต่อมา โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จัดการปั่นซ้าย แต่โดนเสาประตูผีเซฟไว้ มาเข้าทาง ดาร์วิน นูนเญซ แต่ก็ยังข้ามคานอยู่ดี

จบเกม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ ลิเวอร์พูล แบบขาดลอย 4-0 ท่ามกลางสายตาแฟนบอลในสนาม 50,248 คน