“จิ้งจอก” เลสเตอร์ ชวดถ้วยไปอีกใบหลังโดน รอสส์ บาร์คลี่ย์ ที่ลงมาครึ่งหลังตะบันชัยให้กับ เชลซี ชนะไป 1-0 เข้ารอบรองชนะเลิศในศึก เอฟเอ คัพ อังกฤษ รอบก่อนรองชนะเลิศ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 28 มิถุนายนที่ผ่านมา
สตาร์ทเกมมาถึงนาที 14 เลสเตอร์ ซิตี้ มีโอกาสทำประตูก่อนจากจังหวะเปิดมุมของ เบน ชิลเวลล์ เข้าหัว วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้ ที่หน้ากรอบแต่ไม่พ้นมือนายด่านทีมเยือน
นาที 20 ยูริ ตีเลมันส์ เข้ามาตะบันขวานอกกรอบสุดแรง ทำเอา วิลลี่ กาบาเยโร่ ต้องออกแรงเซฟอีกหน
นาที 30 เป็นทีของ เชลซี ที่จะได้ตีโต้บ้างเมื่อ เมสัน เม้น์ท จ่ายให้ คริสเยน พูริซิช พาลูกไปซัดเต็มข้อ แต่นายด่านเจ้าถิ่นยังบินออกมาปัดได้ทัน
ก่อนหมดเวลาครึ่งแรกนาที 45 ฮาร์วี่ย์ แทงไปหา เจมี่ วาร์ดี้ ให้หลุดเข้าไปซัดเหินออกหลังแบบไม่ต้องได้ลุ้น
จบครึ่งแรก เลสเตอร์ ซิตี้ เสมอ เชลซี 0-0
ในช่วงครึ่งหลัง แลมป์ ตัดสินใจใช้โควตาเปลี่ยนตัวพร้อมกัน 3 คน โดยส่ง เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า, มาเตโอ โควาซิช และรอสส์ บาร์คลี่ย์ ลงไปแทนที่ รีซ เจมส์, บิลลี่ กิลมอร์ และเมสัน เม้าน์ท
ในที่สุดทีมเยือนก็ได้จังหวะออกนำไปก่อน 1-0 เมื่อ วิลเลี่ยน ตักไปที่เสากแรกโดยมี รอสส์ บาร์คลี่ย์ ปรี่เข้ามายิงในระยะ 6 หลา
นาที 66 แข้ง “สิงห์บูลส์” บุกเจ้าบ้านอย่างต่อเนื่องจนหวิดทำประตูเพิ่มในจังหวะที่ พูลิซิช ต่อให้ บาร์คลี่ย์ ตะบันซ้ายไปติดเซฟของ คาสเปอร์ ชไมเคิ่ล
สถานการณ์ของฝั่งเจ้าบ้านเริ่มตึงเครียดทำให้ บีร็อดจ์ ต้องปรับทัพใหม่ปล่อย เดเมราย เกรย์ มาแทน ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ ทางด้าน แลมป์ ก็ดึง วิลเลี่ยน กลับไปแล้วให้ เปโดร รับช่วงต่อ พร้อมกับพักแข้ง คริสเตียน พูลิซิช แล้วส่ง รูเบน ลอฟตัส-ชีค ลงแทน
นาที 85 มาร์ค อัลไบรท์ตัน ได้โอกาสเปิดเซ็ตพีซเข้ากรอบ 6 หลา ก่อนที่ ซากลาร์ โซยุนชู จะเทกตัวโขกหลุดกรอบไปอย่างน่าเสียดาย
4 นาทีต่อมา เชลซี พลาดโอกาสซัดประตูที่สองอีกหน ขณะที่ รอสส์ บาร์คลี่ย์ ตัดบอลแล้วสวนคืนให้ รูเบน ลอฟตัส-ชีค แล้วจ่ายคืนให้ บาร์คลี่ย์ หวดเต็มข้อไปติดเซฟนายด้านเจ้าบ้านออกหลังไป
จบเกม เชลซี ชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ 1-0