ลิเวอร์พูล ขึ้นทาบจ่าฝูงร่วมกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ เชลซี ได้สำเร็จ หลังบุกทุบ ลีดส์ 3-0 แต่เกมนี้ต้องสังเวย ฮาร์วี่ย์ เอลเลียต ที่เจ็บข้อเท้าจนไปไม่สุดเกม ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 12 กันยายนที่ผ่านมา
เกมนี้เป้าหมายของ “หงส์แดง” อยู่ที่ 3 แต้มเท่านั้นหากต้องการขึ้นยืนตำแหน่งจ่าฝูงร่วมกับ “ผีแดง” และ “สิงโตน้ำเงิน” เจอร์เก้น คล็อปป์ นายใหญ่แห่งแอนฟิลด์จัดเต็มแนวรุก โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดีโอโก้ โชต้า และ ซาดิโอ มาเน่ พร้อมด้วยเหล่าแข้งแซมบ้า อาทิ อลีสซง และฟาบินโญ่ มีเพียง โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ที่ยังเจ็บอยู่ต้องดูเพื่อนเล่นไปก่อน
ส่วนเจ้าบ้านวางใจให้ พาทริก แบมฟอร์ด ประจำการหน้าเป้าแล้วเอา ราฟินญ่า, โรดริโก้ โมเรโน่ และแจ็ค แฮร์ริสัน ไปช่วยกันซัพพอร์ตเกมรุก นัดนี้ แดเนี่ยล เจมส์ ปีกใหม่ที่ย้ายจาก “ปีศาจแดง” ต้องติดสำรองไปก่อน
เขี่ยบอลกันได้แค่ 6 นาที เจ้าบ้านก็ทักก่อนในจังหวะที่ โรดริโก้ โมเรโน่ ซัดเต็มข้อจน อลีสซง เบ็คเกอร์ ต้องทุบทิ้ง ก่อนที่ “หงส์แดง” จะรีบสวนคืนโดย เทรนท์ อาร์โนลด์ จะเข้าตัดบอลแล้วตักใส่กรอบ 6 หลา ไปให้ ดีโอโก้ โชต้า ซัดผ่านประตูไปให้แฟนบอล “ยูงทอง” ได้ใจหายเล่น
นาที 11 ดีโอโก้ โชต้า ไหลให้ ซาดิโอ มาเน่ ซัดนอกกรอบไปติดแข้ง ยอเรนเต้ ออกหลังไป ก่อนที่ปีกเซเนกัลจะเรียกฟรีคิกนอกกรอบได้พร้อมกับการคว้าใบเหลืองของ เลียม คูเปอร์ ทว่าเจ้าหนู เทรนท์ ปั่นฟรีคิกออกหลังแบบไม่ต้องได้ลุ้น
นาที 15 ทีมเยือนหวิดได้ประตูแรกจากจังหวะที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ส่งเข้าเขตโทษให้ ดีโอโก้ โชต้า ลั่นไกแต่ไม่เต็มแรง ทำเอา อิลล็อง เมสลิเย่ร์ ปัดมือเดียวได้ไม่ยาก
นาที 20 ลิเวอร์พูล เบิกสกอร์ไปก่อนโดย โฌเอล มาติ๊ป ส่งบอลให้ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ปาดหา “บังโม” แปซ้ายเข้าประตูไป “หงส์แดง” นำทันที 1-0 พร้อมกับการทำประตูที่ 100 ของแข้งฟาโรห์
ห้านาทีต่อมา โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ได้ทีเปิดไปที่เสาไกลให้ ติอาโก้ อัลกันตาร่า โฉบโขกตุงตาข่าย ทว่าจังหวะนี้เชิ้ตดำชี้ “บังโม” ล้ำหน้าไปก่อนแล้ว
นาที 27 แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ได้จังหวะเปิดเข้ากลางให้ แฮร์รี่ เอลเลียตต์ หวดติดบล็อกก่อนเจ้าตัวจะซ้ำดาบสอง แต่นายด่านเจ้าบ้านก็ไม่ยอมให้บอลผ่านไปได้
นาที 31 “บังโม” จ่ายสั้นให้ ซาดิโอ มาเน่ กดซ้ายเน้น ๆ ถากเสาไกลออกไปนิดเดียว
สองนาทีต่อมา ดีเอโก้ ยอเรนเต้ เกิดเจ็บจนไปต่อไม่ไหวทำให้ มาร์เซโล่ บิเอลซ่า ต้องส่ง ปาสกาล สเตราค์ ลงไปเล่นแทน
นาที 44 เจ้าบ้านชวดโอกาสสำคัญอีกหนเมื่อ โรดริโก้ โมเรโน่ ตักย้อยไปที่เสาไกล แต่ว่า ลุค อายลิ่ง ตัดสินใจใช้เข่ากระแทกบอลหลุดกรอบอย่างน่าเสียดาย
จบครึ่งแรก ลีดส์ ตาม ลิเวอร์พูล 0-1
ในช่วงครึ่งหลังกุนซือเจ้าถิ่นตัดสินใจส่ง ไทเลอร์ โรเบิร์ตส ไปแทน โรดริโก้ โมเรโน่
นาที 49 โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เร่งฝีเท้าเข้ามาซัดลูกที่เลย ซาดิโอ มาเน่ ทว่าแฉลบใส่ จูเนียร์ ฟีร์โป้ ออกหลังอย่างน่าเสียดาย
นาทีต่อมา เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เปิดให้ เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค โขกไปที่ ฟาบินโญ่ กดลอดขา ลุค อายลิ่ง เข้าประตูไป ลิเวอร์พูล ทิ้งห่าง 2-0
นาที 58 ปาสกาล สเตราค์ เข้าเสียบ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียต์ จนข้อเท้าหักทำให้ เคร็ก พาวสัน ต้องควักใบแดงตะเพิดออกสนามไป ส่วนนายใหญ่ “หงส์แดง” ต้องรีบส่ง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ลงมาแทน
นาที 68 ลีดส์ ใช้โควตาเปลี่ยนตัวคนสุดท้ายโดยให้ แดเนี่ยล เจมส์ ลงไปแก้เกมแทน แจ็ค แฮร์รี่สัน
นาที 73 เทรนท์ อาร์โนลด์ ขึ้นบอลในกรอบก่อนจะซัดเลียดไปติดมือ อิลล็อง เมสลิเย่ร์
นาที 75 ลิเวอร์พูล หวิดโดนตีไข่แตกเมื่อ ราฟินญ่า หลุดไปถึงเส้นหลังก่อนจะปาดให้ พาทริก แบมฟอร์ด เข้าชาร์จแต่ว่านายด่านมือหนึ่งก็ยังคงเหนียวอยู่
นาที 81 ดีโอโก้ โชต้า ได้จังหวะไหลให้ ซาดิโอ มาเน่ แต่ว่าปีกเซเนกัล กดไปติดมือนายด่านเจ้าถิ่นเต็ม ๆ
ช่วงทดเจ็บ นาที 90+2 ลิเวอร์พูล ตอกฝาโลงอีกครั้งโดย ซาดิโอ มาเน่ กดเต็มแรงเข้าประตูไป เป็นประตูสุดท้ายขอเกม
จบเกม ลีดส์ แพ้ ลิเวอร์พูล 0-3