ถึงจะเป็นเจ้าบ้าน ทว่าเกมนี้ ฟอเรสต์ อาจไม่ง่ายดังหวังเมื่อต้องมาเจอกับ แอสตัน วิลล่า ที่ฟิตพร้อมทุกมิติแถมยังมีเกมรุกที่คมกว่าด้วยสถิติ 26 ประตูจาก 10 นัดล่าสุด เกมนี้เจ้าบ้านจะเอาตัวรอดได้หรือไม่ ติดตามได้ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันอาทิตย์ที่ 4 พฤศจิกายนนี้ เวลา 21.00 น. ณ สนาม ซิตี้ กราวน์
สตีฟ คูเปอร์ เทรนเนอร์ “เจ้าป่า” ก็ต้องเจอปัญหาหนักหลังจากโดน “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ถล่มยับ 3-0 ทำให้ไม่ชนะใครติดต่อกันมานานถึง 6 นัด รูดไปอยู่อันดับ 16 ของตารางด้วย 10 แต้มจาก 10 นัดที่เตะไปแล้ว
ส่วนความพร้อมของทีมก็ยังไม่สามารถใช้ ดานิโล่, กอนซาโล มอนเทียล, เฟลิเป้, คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย, ดิว็อก โอริกี้ และ คริส วู้ด ที่มีอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่ได้ ยังดีที่ไม่มีใครติดแบนเพิ่มเข้ามา
ในเกมนี้คาดว่าแนวรับใช้ แซร์ช ออริเยร์, มูริลโล, วิลลี โบลี่ และ โอลา ไอน่า โดยมี อิบราฮิมา ซองกาเร, โอเรล มองกาลา และ นิโคลัส โดมิงเกซ คุมแผงกลาง แนวรุกวาง ไตโว อโวนิยี ปักหลักเป็นหัวหอกตัวเป้า ขนาบข้างด้วยตัวริมเส้นซ้าย-ขวา แอนโธนี่ อีแลงก้า กับ มอร์แกน กิ๊บบ์ส-ไวท์
ทางฝั่ง “สิงห์ผงาด” ของนายใหญ่ อูไน เอเมรี่ ก็ยังคงทำผลงานได้ดีต่อเนื่อง ล่าสุดจัดการไล่ต้อน ลูตัน ทาวน์ 3-1 เก็บชัยเป็นนัดที่ 5 จาก 6 นัดหลังสุด พร้อมรั้งอันดับ 5 เอาไว้ด้วย 22 แต้มจาก 10 นัดเตะเช่นกัน
สภาพทีมตอนนี้ขาแค่พวกเดี้ยงยาวอย่าง เอมิเลียโน่ บูเอ็นเดีย, ไทโรนส์ มิงส์, เจค็อบ แรมซีย์ และ อเล็กซ์ โมเรโน่ แต่ก็ไม่มีปัญหาต่อการจัดทัพแต่อย่างใด เพราะบรรดาขาประจำยังคงพร้อมเป็นตัวเลือกเช่นเคย
ในระบบ 4-4-2 แมตตี้ แคช, เอซรี่ คอนซา, เปา ตอร์เรส และ ลูก้าส์ ดีญ จะคุมหลังบ้าน มิดฟิลด์ใช้ บูบาการ์ กามาร่า กับ ดักลาส ลุยซ์ คุมเกมตรงกลาง โดยมี จอห์น แม็คกินน์ กับ ลีออน ไบลีย์ ทำเกมริมเส้น พร้อมด้วยคู่กองหน้า มูสซา ดิอาบี้ กับ โอลลี่ วัตกิ้นส์